วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

สมคบฟอกเงิน-รับของโจร คดีสหกรณ์คลองจั่น



http://crime.tnews.co.th/


คดีฟอกเงินกับ นายศุภชัย กับผู้ที่มีชื่อรับเช็คจำนวน 878 ฉบับ โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอแยกการสอบสวนออกเป็น 7 กลุ่ม ตามความสัมพันธ์ของธุรกรรมการเงินประกอบด้วย 1.นิติบุคคลที่มีมูลหนี้ต่อกัน 2.วัดพระธรรมกาย 3.สหกรณ์อื่นๆ 4.ผู้ต้องหาและผู้ที่เข้าข่าย 5.บุคคลธรรมดา 6.นายหน้าค้าที่ดิน และ 7.นิติบุคคลที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
           
สำหรับกลุ่มที่จะถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจรและฟอกเงินนั้น อยู่ในกลุ่มบุคคลและกลุ่มนิติบุคคลใน 7 กลุ่ม ที่รับเช็คจากสหกรณ์รวมเป็นเงินราว 7,000-8,000 ล้านบาท และเป็นกลุ่มที่รับเช็คโดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน ซึ่งรวมถึงกลุ่มวัดพระธรรมกายและเครือข่ายที่มีการรับบริจาคโดยไม่มีมูลหนี้รวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินบริจาคให้วัดผ่านบัญชี พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท และพระรูปอื่นในเครือข่ายวัดธรรมกายประมาณ 20 รูป ที่ได้รับเช็คจาก นายศุภชัย อีกรวมประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอจะพิจารณาสอบสวนหาความจริงต่อไปเพื่อดำเนินการตามที่ทางอัยการได้สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม และหากพบว่ามีทรัพย์สินที่ได้จากการยักยอกสหกรณ์หลงเหลืออยู่กับบุคคลใด พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสั่งยึดอายัดทันที

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร  กรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นกับพวก 8 คน ยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ฯมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ผู้ต้องหาในฐานความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร โดยให้พระพระเทพญาณมหามุณี

ก่อนหน้านี้คดีนี้อยู่ในความรับผิดชองของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี และได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี และกลุ่มพระในวัดพระธรรมกายที่มีรายชื่อปรากฎรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีการจัดลำดับการเข้าให้ปากคำ เริ่มจากวันที่ 10 มี.ค.เป็นต้นไป     แต่ยังไม่ได้สอบในส่วนที่พระธัมมชโย มีชื่อรับเช็คด้วยตนเอง เพราะ ส่งทนายมาแทน ซึ่งดีเอสไอ ต้องการสอบในส่วนที่พระธัมมชโยมีชื่อรับเช็คเอง

สำหรับเช็คที่ตรวจสอบพบนายศุภชัย อ้างว่าบริจาคให้วัดพระธรรมกาย มี 15 ฉบับ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดเดิมสรุปไว้ว่า พระธัมมชโยยอมรับว่ารับเช็ค 13 ฉบับ จากการตรวจสอบพบเช็คบางฉบับมีการสลักหลังและโอนเงินหลักร้อยล้านบาทกลับไปยังบัญชีบุคคลอื่นแทน

ทั้งนี้ รายชื่อ กลุ่มพระที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ เช่นทิ พระวิรัช 100 ล้านบาท พระมนตรี 100 ล้านบาท พระครูปลัดวิจารณ์ฯ 119 ล้านบาท

คดีสหกรณ์คลองจั่น ณ ตอนนี้ อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำการสอบสวน เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
สมคบฟอกเงิน-รับของโจร คดีสหกรณ์คลองจั่น

คดีฟอกเงินกับ นายศุภชัย กับผู้ที่มีชื่อรับเช็คจำนวน 878 ฉบับ โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอแยกการสอบสวนออกเป็น 7 กลุ่ม ตามความสัมพันธ์ของธุรกรรมการเงินประกอบด้วย 1.นิติบุคคลที่มีมูลหนี้ต่อกัน 2.วัดพระธรรมกาย 3.สหกรณ์อื่นๆ 4.ผู้ต้องหาและผู้ที่เข้าข่าย 5.บุคคลธรรมดา 6.นายหน้าค้าที่ดิน และ 7.นิติบุคคลที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน

สำหรับกลุ่มที่จะถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจรและฟอกเงินนั้น อยู่ในกลุ่มบุคคลและกลุ่มนิติบุคคลใน 7 กลุ่ม ที่รับเช็คจากสหกรณ์รวมเป็นเงินราว 7,000-8,000 ล้านบาท และเป็นกลุ่มที่รับเช็คโดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน ซึ่งรวมถึงกลุ่มวัดพระธรรมกายและเครือข่ายที่มีการรับบริจาคโดยไม่มีมูลหนี้รวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินบริจาคให้วัดผ่านบัญชี พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท และพระรูปอื่นในเครือข่ายวัดธรรมกายประมาณ 20 รูป ที่ได้รับเช็คจาก นายศุภชัย อีกรวมประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอจะพิจารณาสอบสวนหาความจริงต่อไปเพื่อดำเนินการตามที่ทางอัยการได้สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม และหากพบว่ามีทรัพย์สินที่ได้จากการยักยอกสหกรณ์หลงเหลืออยู่กับบุคคลใด พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสั่งยึดอายัดทันที

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร  กรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นกับพวก 8 คน ยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ฯมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ผู้ต้องหาในฐานความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร โดยให้พระพระเทพญาณมหามุณี

ก่อนหน้านี้คดีนี้อยู่ในความรับผิดชองของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี และได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี และกลุ่มพระในวัดพระธรรมกายที่มีรายชื่อปรากฎรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีการจัดลำดับการเข้าให้ปากคำ เริ่มจากวันที่ 10 มี.ค.เป็นต้นไป     แต่ยังไม่ได้สอบในส่วนที่พระธัมมชโย มีชื่อรับเช็คด้วยตนเอง เพราะ ส่งทนายมาแทน ซึ่งดีเอสไอ ต้องการสอบในส่วนที่พระธัมมชโยมีชื่อรับเช็คเอง

สำหรับเช็คที่ตรวจสอบพบนายศุภชัย อ้างว่าบริจาคให้วัดพระธรรมกาย มี 15 ฉบับ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดเดิมสรุปไว้ว่า พระธัมมชโยยอมรับว่ารับเช็ค 13 ฉบับ จากการตรวจสอบพบเช็คบางฉบับมีการสลักหลังและโอนเงินหลักร้อยล้านบาทกลับไปยังบัญชีบุคคลอื่นแทน

ทั้งนี้ รายชื่อ กลุ่มพระที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ เช่นทิ พระวิรัช 100 ล้านบาท พระมนตรี 100 ล้านบาท พระครูปลัดวิจารณ์ฯ 119 ล้านบาท

คดีสหกรณ์คลองจั่น ณ ตอนนี้ อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำการสอบสวน เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น