วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความเคลื่อนไหว สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กับการประชุมครั้งที่ 3/59



       เมื่อวันที่ 26 ก.พ. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2559 มีทั้งหมด 4 ประเด็น

       ประเด็นที่ 1 คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดทรัพย์เจ้าของบ่อนพิษณุโลก 92 ล้านบาท สืบเนื่องจาก ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สินกรณีการตรวจยึดทรัพย์สินทางพัณณ์ชิตา หีบนาค กับพวก ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ในความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและฟอกเงิน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2557 ที่โรงแรมจัสมินรีสอร์ท เลขที่ 7/105 ถ.พระร่วง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สำหรับทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน คือ พระเหลี่ยมทองคำ เครื่องประดับทองคำ เงินในบัญชีธานาคาร และที่ดินตามโฉนดที่ดินใน จ.พิษณุโลก รวม 344 รายการ มูลค่าประมาณ 92 ล้านบาท
       ประเด็นที่ 2 อายัดทรัพย์สินของพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก เพิ่มเติม 2.7 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นบัญชีธนาคารเงินสดที่เราตรวจพบเพิ่มเติม ส่วนหนึ่งเป็นของนายคชาชาติ บุญดี หรือเสธ.โจ้ ด้วย โดยบางบัญชีพบมีเงินหลักแสนบาทขึ้นไป ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น คณะกรรมการจึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าว
       ประเด็นที่ 3 คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย คืนทรัพย์ให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กว่า 800 ล้านบาท จากการที่ สกสค. ได้รับความเสียหายจากกรณี นายเกษม กลั่นยิ่ง กับพวก มีพฤติการณ์ในการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่อนุมัติเงินกองทุนของ สกสค. ให้กับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด กู้ยืมโดยไม่มีหลักประกัน คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติอายัดทรัพย์ในคดีดังกล่าว ทั้งนี้ ต่อมา สกสค. ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ได้ยื่นเรื่องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายตาม ม.49 วรรค 6 แห่งพ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวการกระทำความผิด ให้เลขาธิการ ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณา เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดินโดยเร็ว
       ประเด็นที่ 4 แบบคำร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งนำให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในความผิดฐาน ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2558 มีการแก้ไขสาระเพิ่มเติมในเรื่องการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ซึ่งเดิม ปปง. จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน แต่ในพ.ร.บ.ฟอกเงินฉบับล่าสุด ปปง.สามารถขอให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายทีไ่ด้รับความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว เช่น กรณี สกสค. ทำเรื่องคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายมายัง ปปง. เพื่อให้นำทรัพย์ที่ ปปง. ยึดทรัพย์ไว้คืนให้กับ สกสค. ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรง
      ทั้งนี้ ปปง. ดำเนินการจัดทำแบบคำร้อง เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้เสียหายทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซด์ ปปง. www.amlo.go.th หรือมารับได้ที่ ปปง. ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างชาติสามารถโหลดแบบคำร้องเป็นภาษาอังกฤษได้ที่ช่องทางติดต่อเดียวกัน แต่ต้องแปล็นภาษาไทยและรับรองเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือโนตารี พับลิค พร้อมแนบหลักฐานที่ใช้ประกอบยื่นคำร้องด้วย
       สรุป รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทำการประชุมคณะกรรม สรุปผล เกี่ยวกับความคืบหน้าในคดีความเจ้าของบ่อนพิษณุโลกในฐานความผิดฟอกเงิน และคดีความของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก รวมถึงชี้แจงในกรณีการขอคืนสิทธิผู้เสียหายจากคดีความการฟอกเงิน
       สถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับความคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทุจริตและฟอกเงิน โดยจะมีการจัดวาระแถลงผลการประชุมคณะกรรมในครั้งถัดไป เนื่องจาก คดีความแต่ละส่วนต้องใช้เวลาในการพิจารณาและตรวจสอบ รวมถึงรอระยะเวลาการตัดสินคดี เพื่อดำเนินงานต่อไป ซึ่งอาจจะใช้เวลานานในการดำเนินคดี
       อย่างกรณี ที่เคยหยิบยก บริษัท แคลิฟอร์เนียว้าว จำกัด ณ ตอนนี้ ได้มีความคืบหน้าอยู่ในช่วงตัดสินพิจารณาคดีความและตรวจสอบ เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ส่วนการเฉลี่ยสินทรัพย์แก่ทางผู้เสียหาย ขึ้นอยู่กับตัวผู้เสียหายที่ทำแบบคำร้องจัดส่งมา
        ปีที่ผ่านมา 2558 มีรายการคดีความทั้งสิ้น 204 คดี ได้มีการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
        ในปี 2559 มีรายการคดีความทั้งสิ้น 27 คดี ซึ่งอยู่ในระหว่างการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ซึ่งมีกรณีการยกเลิก 1 คดีความ และดำเนินการไปอายัดทรัพย์สินชั่วคราวไปแล้ว 13 คดีความ
       ส่วนใหญ่ ความผิดจะตกอยู่ในฐานพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
        มาตรา ๓ (๑) ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามกฎหมายวาดวยการปองกันและปราบปรามยาเสพติด หรือกฎหมายวาดวยมาตรการในการปราบปรามผูกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
       มาตรา ๓ (๙) ความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายวาดวยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเปน ผูจัดใหมีการเลนการพนันโดยไมไดรับอนุญาต และมีจํานวนผูเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนแตละครั้งเกินกวา หนึ่งรอยคน หรือมีวงเงินในการกระทําความผิดรวมกันมีมูลคาเกินกวาสิบลานบาทขึ้นไป
       มาตรา ๓ (๑๘) ความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพยกรรโชก รีดเอาทรัพยชิงทรัพยปลนทรัพยฉอโกง หรือยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเปนปกติธุระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น