
http://crime.tnews.co.th/
คดีฟอกเงินกับ นายศุภชัย
กับผู้ที่มีชื่อรับเช็คจำนวน 878 ฉบับ โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอแยกการสอบสวนออกเป็น 7 กลุ่ม
ตามความสัมพันธ์ของธุรกรรมการเงินประกอบด้วย 1.นิติบุคคลที่มีมูลหนี้ต่อกัน
2.วัดพระธรรมกาย 3.สหกรณ์อื่นๆ 4.ผู้ต้องหาและผู้ที่เข้าข่าย
5.บุคคลธรรมดา 6.นายหน้าค้าที่ดิน และ 7.นิติบุคคลที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
สำหรับกลุ่มที่จะถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจรและฟอกเงินนั้น
อยู่ในกลุ่มบุคคลและกลุ่มนิติบุคคลใน 7 กลุ่ม
ที่รับเช็คจากสหกรณ์รวมเป็นเงินราว 7,000-8,000 ล้านบาท
และเป็นกลุ่มที่รับเช็คโดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
ซึ่งรวมถึงกลุ่มวัดพระธรรมกายและเครือข่ายที่มีการรับบริจาคโดยไม่มีมูลหนี้รวมกว่า
2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินบริจาคให้วัดผ่านบัญชี พระเทพญาณมหามุนี หรือ
พระธัมมชโย จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท
และพระรูปอื่นในเครือข่ายวัดธรรมกายประมาณ 20 รูป
ที่ได้รับเช็คจาก นายศุภชัย อีกรวมประมาณ 1,200 ล้านบาท
ซึ่งดีเอสไอจะพิจารณาสอบสวนหาความจริงต่อไปเพื่อดำเนินการตามที่ทางอัยการได้สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม
และหากพบว่ามีทรัพย์สินที่ได้จากการยักยอกสหกรณ์หลงเหลืออยู่กับบุคคลใด
พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสั่งยึดอายัดทันที
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล
ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ
หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร
อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นกับพวก 8 คน
ยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ฯมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท
ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย
ผู้ต้องหาในฐานความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร
โดยให้พระพระเทพญาณมหามุณี
ก่อนหน้านี้คดีนี้อยู่ในความรับผิดชองของ
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี และได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี
และกลุ่มพระในวัดพระธรรมกายที่มีรายชื่อปรากฎรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
คลองจั่น เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีการจัดลำดับการเข้าให้ปากคำ
เริ่มจากวันที่ 10 มี.ค.เป็นต้นไป แต่ยังไม่ได้สอบในส่วนที่พระธัมมชโย
มีชื่อรับเช็คด้วยตนเอง เพราะ ส่งทนายมาแทน ซึ่งดีเอสไอ
ต้องการสอบในส่วนที่พระธัมมชโยมีชื่อรับเช็คเอง
สำหรับเช็คที่ตรวจสอบพบนายศุภชัย
อ้างว่าบริจาคให้วัดพระธรรมกาย มี 15 ฉบับ
มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดเดิมสรุปไว้ว่า
พระธัมมชโยยอมรับว่ารับเช็ค 13 ฉบับ
จากการตรวจสอบพบเช็คบางฉบับมีการสลักหลังและโอนเงินหลักร้อยล้านบาทกลับไปยังบัญชีบุคคลอื่นแทน
ทั้งนี้ รายชื่อ
กลุ่มพระที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ เช่นทิ พระวิรัช 100 ล้านบาท
พระมนตรี 100 ล้านบาท พระครูปลัดวิจารณ์ฯ 119 ล้านบาท
คดีสหกรณ์คลองจั่น ณ ตอนนี้
อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำการสอบสวน
เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
สมคบฟอกเงิน-รับของโจร คดีสหกรณ์คลองจั่น
คดีฟอกเงินกับ นายศุภชัย
กับผู้ที่มีชื่อรับเช็คจำนวน 878 ฉบับ โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอแยกการสอบสวนออกเป็น 7 กลุ่ม
ตามความสัมพันธ์ของธุรกรรมการเงินประกอบด้วย 1.นิติบุคคลที่มีมูลหนี้ต่อกัน
2.วัดพระธรรมกาย 3.สหกรณ์อื่นๆ 4.ผู้ต้องหาและผู้ที่เข้าข่าย
5.บุคคลธรรมดา 6.นายหน้าค้าที่ดิน และ 7.นิติบุคคลที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
สำหรับกลุ่มที่จะถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจรและฟอกเงินนั้น
อยู่ในกลุ่มบุคคลและกลุ่มนิติบุคคลใน 7 กลุ่ม
ที่รับเช็คจากสหกรณ์รวมเป็นเงินราว 7,000-8,000 ล้านบาท
และเป็นกลุ่มที่รับเช็คโดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
ซึ่งรวมถึงกลุ่มวัดพระธรรมกายและเครือข่ายที่มีการรับบริจาคโดยไม่มีมูลหนี้รวมกว่า
2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินบริจาคให้วัดผ่านบัญชี พระเทพญาณมหามุนี หรือ
พระธัมมชโย จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท
และพระรูปอื่นในเครือข่ายวัดธรรมกายประมาณ 20 รูป ที่ได้รับเช็คจาก
นายศุภชัย อีกรวมประมาณ 1,200 ล้านบาท
ซึ่งดีเอสไอจะพิจารณาสอบสวนหาความจริงต่อไปเพื่อดำเนินการตามที่ทางอัยการได้สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม
และหากพบว่ามีทรัพย์สินที่ได้จากการยักยอกสหกรณ์หลงเหลืออยู่กับบุคคลใด
พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสั่งยึดอายัดทันที
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล
ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ
หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร
อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นกับพวก 8 คน
ยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ฯมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท
ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย
ผู้ต้องหาในฐานความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร
โดยให้พระพระเทพญาณมหามุณี
ก่อนหน้านี้คดีนี้อยู่ในความรับผิดชองของ
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี และได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุณี
และกลุ่มพระในวัดพระธรรมกายที่มีรายชื่อปรากฎรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
คลองจั่น เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีการจัดลำดับการเข้าให้ปากคำ
เริ่มจากวันที่ 10 มี.ค.เป็นต้นไป แต่ยังไม่ได้สอบในส่วนที่พระธัมมชโย
มีชื่อรับเช็คด้วยตนเอง เพราะ ส่งทนายมาแทน ซึ่งดีเอสไอ
ต้องการสอบในส่วนที่พระธัมมชโยมีชื่อรับเช็คเอง
สำหรับเช็คที่ตรวจสอบพบนายศุภชัย
อ้างว่าบริจาคให้วัดพระธรรมกาย มี 15 ฉบับ
มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดเดิมสรุปไว้ว่า
พระธัมมชโยยอมรับว่ารับเช็ค 13 ฉบับ
จากการตรวจสอบพบเช็คบางฉบับมีการสลักหลังและโอนเงินหลักร้อยล้านบาทกลับไปยังบัญชีบุคคลอื่นแทน
ทั้งนี้ รายชื่อ
กลุ่มพระที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ เช่นทิ พระวิรัช 100 ล้านบาท
พระมนตรี 100 ล้านบาท พระครูปลัดวิจารณ์ฯ 119 ล้านบาท
คดีสหกรณ์คลองจั่น ณ ตอนนี้
อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำการสอบสวน
เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม